📑 Read Me - Read Until You Love to Read

The Almanack of Naval Ravikant

ทำยังไงดี ถ้าเราเป็นคนไม่ชอบอ่าน?

เอาจริงๆ สมัยก่อนแอดเป็นคนไม่ชอบอ่านเลย สมัยเรียน ป.ตรี เล่นอย่างเดียว ห้องสมุดคือที่สุดท้ายที่จะได้เจอแอด 555+ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากบอกตัวเองตอนเด็กๆ "ให้อ่านเยอะๆ"

Naval นักทวีต นักลงทุน Startup ในตำนานให้คำแนะนำไว้ว่า

Read what you love, until you love to read. - Naval

"อ่านสิ่งที่เรารัก จนกว่าจะรักที่จะอ่าน" ขนลู๊กกก 555+

Naval บอกว่าไม่มีสิ่งใดแทนที่การอ่านได้เลย มันคือ foundational skill ที่ทำให้เราเป็นอะไรก็ได้ที่เราอยากเป็นในอนาคต จริงๆโดยเฉลี่ยมนุษย์เราอ่านได้ "เร็วกว่า" การฟังด้วยซ้ำ

หรือจะบอกว่า reading คือวิธีการ absorb ข้อมูลที่เร็วที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งสามารถทำได้ ยังงี้ก็ได้ เย้

ถ้าอยากฝึกการอ่าน? ให้เริ่มจากเรื่องที่เราชอบก่อน แล้วอ่านทุกวัน วันละ 30-60 นาทีเป็นอย่างน้อย

แต่ถ้าใครยังไม่รู้จะอ่านอะไร มีเล่มหนึ่งที่แอดอยากแนะนำๆทุกคนเลยชื่อ (ใครอยากเดาไหม 555+) The Almanack of Naval Ravikant (2020) เขียนโดย Eric Jorgenson

Eric ชอบ tweets ของ Naval มาก เลยนั่งอ่านงานทั้งหมดของ Naval แล้วเขียนเป็นหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา กลายเป็น best selling book มี Naval คอยให้คำแนะนำด้วย

Reading comes before writing

เล่มนี้ อ่านง่าย ความรู้แน่น หลายคนยกให้เป็นหนังสือ Business ที่ดีสุดในปี 2020 เลย มาป้ายยาทุกคนก่อน บ้านเรามีขายที่ Kino หรือจะกดเป็น ebook บน Amazon ก็ได้นะครับ

Naval บอกว่า ถ้าเราอ่านทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง ติดกัน 7 ปี "ถ้ายังไม่ประสบความสำเร็จ ผมให้ถีบหน้าเลย" ยั๊งงง 555+ (Naval พูดประโยคแรก ส่วนอันหลังของแอด 555+)

How I Read?

จริงๆแอดไม่มีเทคนิคการอ่านอะไร แค่ [1] หยิบหนังสือที่เราชอบ [2] อ่านทุกวัน [3] สรุปแล้วแชร์

ไม่มี goal ว่าปีหนึ่งต้องอ่านกี่เล่ม (แอดค่อนข้าง anti-goal ไว้มาเล่าให้ฟังรอบหน้า 555+) เน้น quality มากกว่า quantity

Our goal, No goals. - It doesn't have to be crazy at work,

เวลาอ่านหนังสือ "ที่ดีสุด" ของแอดคือช่วงเช้าก่อน 9 โมง เราไม่อ่านหนังสือภาษาไทยเลย แหะๆ ตั้งใจอ่านภาษาอังกฤษจะได้ฝึกภาษาไปด้วย

อีกข้อดีของการอ่านภาษาอังกฤษ เวลาหนังสือออกใหม่ เราซื้อ kindle อ่านได้ทันที ไม่ต้องรอฉบับแปลไทย เข้าถึงความรู้ล่าสุดก่อนใคร (กว่าเล่มไทยจะแปลเสร็จ เร็วสุดก็อีก 2-3 เดือน บางเล่มรอเป็นปี)

The Edge - ยิ่งเราเข้าถึงความรู้ล่าสุดได้ก่อน ยิ่งได้เปรียบ

สุดท้าย อ่านเป็นเล่มหรือ ebook แบบไหนดีกว่ากัน? แอดว่าข้อดีของ paperback มันมีความคลาสสิก ได้ feeling ในการอ่าน ส่วน ebook คืออ่านได้ทุกที่ ไม่ต้องกลัวยับ และ highlight ข้อมูลสำคัญได้สะดวกกว่า

70% ตอนนี้เอียงไปทาง ebook มากกว่า เพราะตู้ที่บ้านไม่พอเก็บแล้ว 555+

What's your favorite book?

😊 แล้วหนังสือที่เพื่อนๆชอบอ่าน ชื่ออะไรกันบ้าง comment ป้ายยาเพื่อนๆกันได้ใน section ด้านล่างนะครับ

Complete and Continue  
Discussion

128 comments